วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พี่มากพระโขนง

หนังผีร่วมสมัยในความสร้างสรรค์บนความจำเจ

            ประเทศไทยเราหนังที่ขายดีและเป็นที่นิยมที่สุดคงจะหนีไม่พ้น หนังผี หนังรัก และหนังตลก ที่จะนำเสนอและการแสดงต่าง ๆ หลากหลายทั้งในแง่บวกและแง่ลบ พร้อมจะทำให้เป็นที่จดจำและเพิ่มยอดขายให้กับตัวเอง

            พี่มาก...พระโขนง เล่าถึงพี่มากที่ต้องลาจากเมียรักอย่าง "นาค" เพื่อไปทำสงครามโดยไม่รู้ความเป็นอยู่ของเมียว่าเป็นอย่างไร จนกระทั่งตัวกลับมาพร้อมสหายร่วมรบอย่าง เต๋อ,เผือก,ชิน,เอ และวันดีคืนดีเพื่อน ๆ กลับรู้ความจริงว่าเมียเพื่อนนั้นเป็น "ผี" แล้วอยากจะบอกความจริงให้เพื่อนได้รับรู้ด้วยวิธีต่าง ๆ นา ๆ จนนำมาสู่ความฮาของเรื่องนี่เอง


              ผมเชื่อว่าทุกคนคงไม่มีใครไม่รู้จักกับตำนานรักอมตะบนความสยองขวัญแห่งทุ่งพระโขนงแน่ ๆ แต่หนังเรื่องนี้คือการตีความเล่าเรื่องใหม่เกือบทั้งหมด จากความน่ากลัวกลายเป็นความน่ารักและความร่วมสมัย เรื่องนี้กำกับการแสดงโดย พี่โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่เคยฝากผลงานมาเกือบทุกแนวทั้ง "ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ" หรือ "กวน มึน โฮ" คือผลงานก่อนของเค้า โดยการนำของ 4 นักแสดงจาก คนกลางและคนกองของ 4 และ 5 แพร่ง มาเป็นตัวชูโรงและดำเนินเดินเรื่องเกือบทั้งหมดของหนัง 

             โดยจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ความร่วมสมัย ที่ใส่เข้ามาในตัวหนังที่ถ่ายทอดออกมาแนวประวัติศาสตร์ เพราะถ้าเราคิดถึงหนังผีสมัยโบราณก็จะนึกถึงคำพูดคำจาที่โบร้าน โบราณ แต่เรื่องนี้ผู้กำกับกล้าที่จะฉีกแนวโดยเอาความร่วมสมัย ประเพณีในปัจจุบันไปยัดเยียดเข้ากับในอดีต ทั้งเรื่องของบทสนทนา มุขตลกร้าย การกระทำและคำพูดที่หยาบคาย พร้อมกับการเสียดสีกัดจิดสังคมในปัจจุบันนิด ๆ ในเรื่องของร้านเหล้า (เป็นซีนเดียวในหนังที่ผมดูแล้วฮาได้เต็มปอดที่สุด คือซีนร้านยาดองปั่น) จนทำให้การเล่าเรื่องของหนังผีเรื่องนี้เป็นอารมณ์ที่คายเครียดและสนุกกับมันในเรื่องราวของความรักแห่งทุ่งพระโขนงพร้อมกับความไร้สาระไปในตัว

            ในเรื่องของการแสดงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ต้องเป็นเรื่องของคู่พระนางในเรื่องนั่นคือ มาริโอ้และใหม่ ดาวิกา ที่ทั้งคู่เล่นได้อย่างเข้ากันเป็นเคมีที่ลงตัวมาก ๆ (ไม่แปลกที่จะมีข่าวจิ้นกัน เพราะถ้าผมเป็นมาริโอ้ก็คิดเหมือนกัน) โดยมาริโอ้ยังคงรักษามาตราฐานการแสดงของตัวเองได้เป็นอย่างดีคือ เล่นไม่ห่วงหล่อ (ไม่เหมือนศิลปินนักแสดงหลาย ๆ คนที่เล่นไปห่วงหล่อไป) และเล่นในซีนอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนใหม่ ดาวิกา ต้องยอมรับว่านี่คือ "แม่นาค" ที่ดูแบ๊ว เนียนและน่ารักที่สุดที่เคยเห็นมาก็ว่าได้ แม้บทพูดของเธอจะดูน้อย แต่การแสดงสีหน้าโดยเฉพาะตาก็ทำให้คนดูเคลิ้มพร้อมกับกลัวไปในตัวด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือแก๊งค์คนกลางและคนกอง หลังจากที่เคยได้เล่นเพียงหนังสั้น มารอบนี้คือการจัดเต็มของพวกเค้าเลยก็ว่าได้ พร้อมโขมยซีนและดูโดดเด่นกว่าคู่พระนางเสียด้วยซ้ำ

            แต่สิ่งที่อยากพูดมากที่สุดเลยก็คือ ความจำเจของมุขตลกที่หนังไทยทุกเรื่องยังหนีไม่พ้นของเรื่อง มุกคำหยาบ มุขเจ็บตัว จนเราจับทางของมุขเหล่านั้นได้แล้ว เพียงแต่หนังเรื่องนี้มีความพิเศษกว่าเรื่องอื่นคือ ยังมีคำพูดมุขตลกที่เป็นตลกร้ายเข้ามาโดยที่ไม่ซ้ำซากสักเท่าไหร่ และถ้านำมันมาเปรียบเทียบกับหนังเรื่องล่าสุดก่อนเรื่องนี้ของพี่กำกับ ผมมองว่าเป็นความผิดพลาดหรือความตันก็ไม่แน่ใจถึงคิดนำเอาของเก่ามาขยายความนั่นก็คือ พี่มากพระโขนงนี้คือการถอดด้ามทั้งมุขตลกและเนื้อเรื่องที่หักมุมมาจาก คนกลางและคนกองมาทั้งดุ้นแต่ขยายความให้เป็นหนังยาวเพียงเท่านั้น จนบางครั้งมันทำให้ความสนุกหายไปส่วนนึง แต่ยังดีที่ตัวหนังทำได้ดีในเรื่องของอารมณ์ ฉาก และบรรยากาศที่ทำให้เราได้กลัวและซึ้งไปในตัวกับเรื่องราวของความรักถึงแม้มันจะไม่สุดทางก็เถอะ

            พี่มาก...พระโขนงเป็นหนังน้ำดีในอารมณ์ Feel Good อีกเรื่องที่ดีและน่าดูถึงแม้มันจะเป็นการนำของเก่ามาเล่าใหม่พร้อมขยายความก็ตาม พร้อมกับข้อคิดถึงเรื่องความรักของคน 2 คนที่ไม่แบ่งเพศ ชนชั้น ที่ทำให้เราคิดว่าถ้าเกิดคุณรู้ความจริงอะไรสักเรื่องที่เป็นเรื่องร้ายแรงของคนที่คุณรัก (เรื่องนี้คือผี) คุณยังจะสามารถรับเค้าได้อยู่หรือไม่


(7/10)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น