The Amazing Spider-man 2
แมงมุมผู้ซับซ้อน
โดยส่วนตัวนั้นค่อนข้างจะชอบ Spider-man เวอร์ชั่นของมาร์ค
เวปป์ มากกว่าเวอร์ชั่นของแซม ไรมี่
เนื่องจากตัวเวอร์ชั่น The
Amazing นั้นค่อนข้างจะมีความเป็นดราม่าและมีปมให้หน้าค้นหามากกว่าจะเป็นหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่สูตรสำเร็จทั่ว
ๆ ไป (ประมาณ Batman เวอร์ชั่นโนแลนด์)
The Amazing Spider-Man 2 จะเล่าถึงปีเตอร์ พาร์คเกอร์ หรือ สไปเดอร์-แมน ที่เค้าต้องออกไปปราบปรามเหล่าร้าย ในขณะที่เรื่องความรักกับเกว็น สเตซี่
ก็ยังอึมครึมเมื่อเขายังจำคำสัญญากับพ่อของเกวนที่จะอยู่ให้ห่างตัวเธอเพื่อ
ไม่ให้เธอมีอันตราย แต่มันก็เป็นคำสัญญาที่เขาทำได้ลำบาก และแล้ววายร้ายตัวใหม่นาม
อิเล็คโตร ก็เผยตัวออกมา พร้อมกับเพื่อนเก่าอย่างแฮร์รี่ ออสบอร์น ก็กลับมาหา
และเขายังได้ค้นพบเบาะแสใหม่ๆ เกียวกับเรื่องราวชีวิตอันเป็นปริศนาของเขา
ภาคนี้ยังคงกำกับโดย มาร์ค เวปป์
ที่ไม่ค่อยมีผลงานในตลาดหนังใหญ่มากนักที่ผ่านตาก่อนจะมีกำกับไอ้แมงมุมแล้วคงเป็น 500 Days of Summer มั้งที่พอจะเคยได้ยิน หรือถ้าดูจากโปรไฟล์ที่ผ่านมาหนังของเค้าน่าจะเป็นสไตล์โรแมนติก
คอมมาดี้ ดราม่าซะเป็นส่วนใหญ่ Spider-Man
จึงอาจจะเป็นหนังแอคชั่นเรื่องแรกของเค้าก็เป็นได้
แถมสามารถนำเอาสิ่งที่ตัวเองถนัดมาผสมเข้ากันได้อย่างลงตัวและน่าค้นหาเป็นอย่างมาก ถึงแม้อาจจะมีบางจุดที่ทำให้สับสนก็ตามแต่
ในส่วนของนักแสดงขอชมว่าผู้กำกับสามารถสร้าง "คู่จิ้น"
ในวงการหนังซุปเปอร์ฮีโร่ได้อย่างน่ารักมากระหว่าง แอนดรู การ์ฟิลว์ กับ เอมม่า สโตน ในบทคู่พระนาง
"ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์" และ "เกว็น สเตซี่"
ทั้งคู่สามารถเล่นรับส่งบทได้อย่างน่ารักจนเชื่อว่าแฟนบอกหรือสาว ๆ
เมื่อเห็นอาจจะมีจิกหมอนเหมือนหนังเกาหลีก็เป็นได้ (แถมถ้าใครไม่ได้ตามข่าวของหนังเรื่อนี้มาตลอด ถ้าอินกับคู่รักนี้แล้วอาจเสียน้ำตาได้) ส่วนตัวร้ายอย่าง เจมี ฟ็อกซ์ ในบท
"แม็กซ์" หรือ "อิเลคโทร" ก็สามารถเล่นในบทของตัวเองได้เป็นอย่างดี และตัวของ
แดน เดฮาน ในบท "แฮรี่ ออสบอน" ก็สามารถเล่นได้ดีไม่มีอะไรผิดพลาดนัก
ในส่วนของบทหนังก็อย่างที่กล่าวไปว่าผู้กำกับเหมือนจะถนัดในเรื่องของดราม่า
โรแมนติก คอมมาดี้
ที่สามารถใส่เข้าไปในหนังได้อย่างลงตัวจนบางทีคุณอาจลืมไปว่าดูหนังตลกหรือหนังแอคชั่นกันแน่
เช่นบางฉากกำลังสู้กับศัตรูอยู่ก็จะคอยสอดแทรกมุขตลกนอกเรื่องมาตลอด ซึ่งแรก ๆ มันก็ดูเค้าทีนั่นหล่ะ แต่หลัง ๆ
มันเริ่มเยอะเกินงามจนอาจสับสนว่าต้องการนำอะไรก่อนกันแน่
แต่สิ่งที่น่าชมตรงจุดนี้คือเค้าสามารถสร้างคู่รักหรือที่บ้านเราชอบเรียกว่า
"คู่จิ้น" ในหนังได้อย่างดีมาก
เพราะบทสามารถรับส่งให้พระนางเล่นได้อย่างเข้าขาและอินไปกับความรักของ 2 คนนี้หรืออาจจะเป็นสิ่งที่ผู้กำกับตั้งใจจะเน้นเรื่องราวความรักมากกว่าการต่อสู้ก็เป็นไปได้
ในส่วนของแอคชั่น
ตัดต่อ CG
ต่าง ๆ
บอกได้คำเดียวว่าเป็นงานที่สวยงามเอามาก ๆ
โดยส่วนตัวผมขอแนะนำดูโรง IMAX หรือโรงไหนก็ได้ที่เป็นระบบ 3D
เพราะหนังเรื่องนี้สามารถเล่นกับลูกเล่น 3D
ได้อย่างสุดมันส์เรื่องนึงในตอนนี้ ทั้งความลึกตื้น
เล่นกับคนดูสามารถทำออกมาได้ดีไม่น่าเกลียดเลย แถมสวยและตื่นเต้นมากอีกต่างหาก
หนังอาจจะไม่ได้มอบอะไรมากนักเพราะมันยังคงเป็นหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จ แต่ยังดีที่หนังสอดแทรกความเป็นดราม่าและเรื่องราวของความรักกลบสิ่งที่จำเจออกไปได้ ถึงแม้ปมในเรื่องบางอย่างอาจจะดูงง ๆ หรือดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่มันยังสามารถกลบอารมณ์ด้วยความเป็นโรแมนติกให้เราได้รู้สึกรักตัวพระนางนี้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย

8 / 10
ปล. ถ้าใครดูโรงธรรมดาทั้ง 2D และ 3D หนังจบแล้วอย่าพึ่งลุก
เพราะมีท้ายเครดิตมี Cut
Screen ของ X-MEN ภาคล่าสุดให้ได้ดู
แต่ดูแล้วไม่ต้องคิดเยอะว่าจะเห็นสไปดี้ไปสู้กับพวกนั้นนะเพราะมันเป็นแค่สัญญาระหว่างค่ายหนังเท่านั้น
ส่วนใครที่ไปดูระบบ IMAX 3D เหมือนผมหนังจบฟังเพลงเครดิตพอประมาณหรือรอให้คนออกเยอะ
ๆ ก่อนก็ลุกตามชาวบ้านซะเพราะมันไม่มีให้เราได้ดู
ส่วนระบบ 4DX เป็นยังไงใครดูแล้วมาบอกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น