Gone Girl
เสียทองเท่าหัว จงอย่าเสียผัวให้ใคร
หลังจากที่ได้ดูตัวอย่างบวกกับกระแสที่ไปในทิศทางที่ดีมาก
ๆ กับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับหนังแนวสืบสวนดาร์คทริลเลอร์อย่าง David Fincher แล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องไปตีตั๋วเพื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้
Gone Girl
เล่นซ่อนหาย ว่าด้วยเรื่องของ 2
ผัวเมียที่ในอดีตต่างมีความรักให้กันเป็นอย่างดี แต่อยู่มาวันนึงความรักเหล่านั้นมันได้จางหายไป จนเกิดเหตุการณ์การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของผู้เป็นเมีย เมียหายทั้งคน คนเป็นผัวมันก็ต้องห่วงต้องหาเป็นธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดาคือเค้าผู้นี้มีส่วนในการหายตัวไปของเมียเค้าเองหรือไม่ บทสรุปจะเป็นเช่นไรไม่ขอสปอยละกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับการแสดงโดย David Fincher ผู้กำกับฝีมือดีคนหนึ่งในวงการฮอลลีวูด
กับหนังแนวดาร์คทริลเลอร์ที่มักเจาะจงในเรื่องของจิตใจมนุษย์หลาย ๆ
เรื่องอาทิ Fight Club, Se7en, The Girl with the
Dragon Tattoo (แต่ส่วนตัวชอบเรื่อง The
Curious Case of Benjamin Butter มากกว่าถึงไม่ใช่แนวสืบสวนแต่การเล่าเรื่องดีมาก) ซึ่งจะเห็นได้ว่าแต่ละเรื่องที่ผ่านมานั้นจะค่อนข้าง (ไม่ค่อนหล่ะ) ออกแนวดาร์คมืด ๆ
ดูแล้วต้องเครียดตามสถานะการณ์
แต่กับภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะดูเปลี่ยนแนวออกไปเล็กน้อย
เพียงแต่ยังคงความเป็นหนังสืบสวนที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยน่าติดตามตลอดเวลา แต่มันแค่ดูแล้วไม่ดาร์คมากเท่าที่ควรจะเป็น
ในส่วนของนักแสดงตรงนี้ต้องขอชมคู่พระ
– นางทั้ง 2 คนเลยทั้ง Ben Affleck ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมตามมาตราฐานดาราที่มีชื่อเสียง แต่ที่ขอชมเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้น Rosamund Pike ซึ่งส่วนมากเธอจะรับบทหนังที่เบาสมองเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่มาในภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นการ “ปล่อยของ” ขั้นสูงของการแสดงของเธอเลยก็ว่าได้ ทั้งการแสดงสีหน้า ท่าทางที่มีความเป็นโรคจิตและความเป็นกุนซือในการคุมตีมของเรื่องได้อย่างสูงส่ง อย่างน้อยออสการ์ปีนี้ต้องมีเธอเข้าชิงสาขา “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” อย่างแน่นอน
แต่ยังไม่นอนมาเพราะอาจจะมีคนที่เล่นดีกว่าเธอก็ได้
แต่เรื่องนี้ใครที่ไปชมขอให้จับตาดูเป็นพิเศษเลย

ข้อเสียของหนังนั้นเหมือนอาจจะไม่มีแต่มันก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะการตัดอารมณ์คนดูกลางทาง
ที่บางครั้งในเหตุการณ์มันเหมือนจะไปได้อีก แต่ดันตัดมาอีกเหตุการณ์แล้วให้เราร้อยเรียงเรื่องใหม่เป็นครั้งคราว มันอาจจะเป็นเสน่ห์ของหนังสืบสวน แต่กลับกันถ้าใครที่ไม่ตั้งใจดูหรือคิดตามไม่ทันมันก็อาจจะปวดหัวแล้วก็
ต้องมานั้งตั้งคำถามว่าเหตุใดทำไมถึงทำ
ที่บางครั้งในเหตุการณ์มันเหมือนจะไปได้อีก แต่ดันตัดมาอีกเหตุการณ์แล้วให้เราร้อยเรียงเรื่องใหม่เป็นครั้งคราว มันอาจจะเป็นเสน่ห์ของหนังสืบสวน แต่กลับกันถ้าใครที่ไม่ตั้งใจดูหรือคิดตามไม่ทันมันก็อาจจะปวดหัวแล้วก็
ต้องมานั้งตั้งคำถามว่าเหตุใดทำไมถึงทำ
หนังไม่ได้มุ่งเน้นแค่การสืบสวนสอบสวนชวนน่าติดตามตลอด 150 นาที
แต่หนังยังมุ่งเน้นและแฝงความเป็นสถาบันครอบครัว และนิทานสอนชีวิตคู่ได้แบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ ว่าด้วยเรื่องชีวิตหลังแต่งงาน และจุดจบของชีวิตคู่
ซึ่งถ้าเรามองตรงจุดนี้มันอาจจะเป็นแค่หนังรักน้ำเน่าทั่ว ๆ ไป เพียงแต่มันถ่ายทอดผ่านความเป็นเรื่องราวสืบสวนคดีพลิกไปพลิกมา แถมยังกัดจิกสังคมเมกาว่าด้วยเรื่องของ “ดราม่า”
ที่ไม่ต่างจากคนไทยมากนักที่เสพติดและแชร์
“ข่าวเล่า”
จนลืมค้นหาความจริงว่าต้นตอมันอยู่จุดใดกันแน่ จนเป็นที่มาขอสำนวนภาษาไทยที่ว่า “เสียทองเท่าหัว จงอย่าเสียผัวให้ใคร” และสุดท้ายผู้ชายทั้งหลายจงจำไว้ว่า “อย่าทำให้มนุษย์เมียโกรธ” ไม่งั้นชีวิตอาจถึงคาดก่อนวัยอันควร...ก็...เป็น...ได้!!!
9 / 10 ถ้าลงทุนขนาดนี้กูไม่ขอมีเมียซะดีกว่า ฮ่า ๆ ๆ
กลัวตัดให้เป็ดแดกมากกว่านอนซังเตเยอะเลย