วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Guardians of the Galaxy

รวมพลเกรียนกู้จักรวาล

          ภาพยนตร์จากค่าย  Marvel Comic ทุกเรื่องนั้นเปิดตัวมามีทั้งประทับใจบ้างไม่ประทับใจบ้าง  ส่วนหนึ่งอาจเป็นที่ตัวการ์ตูนนั้น ๆ มีความนิยมไม่เหมือนกัน  บางเรื่องกลับมาทำใหม่อาจจะดีกว่าของเก่า  หรือบางเรื่องของเก่าอาจเป็นความทรงจำที่ดีกว่าของใหม่ก็เป็นได้  และที่สำคัญเลยคือความกล้าที่จะนำเสนอตัวการ์ตูนที่ได้รับความนิยมค่อนข้างน้อยมาสร้างเป็นหนังใหญ่เพื่อนำมาเชื่อมโยงกันกับเรื่องอื่นนี่สิ  คือสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่ของ  Marvel Comic



            ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึง ปีเตอร์ ควิน หรือสมญานาม “สตาร์ลอร์ด” ดันไปขโมยออร์ปสมบัติชิ้นล้ำค่าของวายร้ายผู้หมายจะล้างจักรวาลอย่างโนแรน  จนอีรุงตุงนังกับการหนีอลเวงจนได้พบมิตรแท้ในคราบโจรที่คุกอันได้แก่  ร็อกเก๊ต แร็กคูณหมีแมว, กรู๊ท มนุษย์ต้นไม้ที่พูดได้แค่ I Am Groot (แต่ตอนท้ายมีเพิ่มอีกคำ), กาโมร่า สาวตัวเขียวนักล่าผู้หักหลักโนแรน และแดรกซ์ ผู้กระหายที่จะแก้แค้นโนแรน  ทั้ง 5 คนต้องร่วมมือกันโดยมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันแต่ความหมายเดียวกันจนความฮาบังเกิดในจักรวาล

            ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับการแสดงโดย  เจมส์ กันน์  ที่เคยทำผลงานในหนังจอเงินฟอร์มเล็กอย่าง  Slither และ Super  นอกนั้นก็จะเป็นพวกหนังซีรี่ย์ทั่ว ๆ ไป  ถือว่าการมากำกับหนังฟอร์มยักษ์ครั้งนี้เป็นอะไรที่ท้าทายสุด ๆ แล้วยิ่งต้องกำกับการ์ตูนที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรือคนที่ไม่ได้ติดตามก็ไม่รู้จักยิ่งเป็นอะไรที่ยากเข้าไปใหญ่  แต่สุดท้ายมันกลับกลายเป็นว่าผู้กำกับสามารถวางโครงเรื่องและผสมผสานแอคชั่นได้อย่างถูกจุดจนเหนือความคาดหมายเลยหล่ะ

            ในด้านของนักแสดงนั้น  การที่มีตัวละครมาก ๆ มันจึงยิ่งยากที่จะแชร์ให้มันเท่ากันหรือตามความเหมาะสม  แต่ผู้กำกับก็สามารถแชร์บทและให้ความสำคัญของแต่ละตัวละครได้ดีจนเราไม่รู้สึกเทใจไปที่คนใดคนหนึ่งเหมือนกับ  The Avengers  ที่ถึงแชร์บทได้ดีแต่กลับรู้สึกว่ามันแข่งกันเด่นเสียมากกว่า (ก็มันรวมกันเฉพาะกิจนี่)  ส่วนของนักแสดงอย่าง คริส แพตท์ ในบท “ปีเตอร์ ควิน” ก็เล่นได้อย่างมาดกวนชวนขำตลอดเวลาจนลืมไปว่านี่คือหัวหน้าแก๊งค์ โซอี้ ซัลดาน่า ในบท “กาโมร่า”  ก็เล่นได้อย่างไม่ติดขัดตามคุณภาพ  และเดฟ บัลลิสต้า  ในบท “แดรกซ์”  ก็สามารถเล่นบทของตัวเองได้อย่างดี  แต่ที่ต้องขอเอ่ยปากชมก็คือตัวของ  “ร็อกเก็ต”  ที่ให้เสียงโดย แบรดลี่ย์ คูเปอร์  ก็สามารถพากย์เสียงได้เข้าถึงอารมณ์ของตัวร็อกเก็ตได้เป็นอย่างดีพร้อมกับการแย่งซีนครั้งสำคัญของเรื่อง  รวมถึงเสียงของ วิน ดีเซล  ในบท “กรู๊ท”  ที่พูดน้อยแต่ความฮาเหลือล้ำเกินคำบรรยาย

            ในเรื่องของบทหนังถือจัดว่าไม่มีอะไรเด่นมากนัก  เพราะบทถือว่าปูมาแบบเรียบง่ายไม่ได้เจาะลึกตื้นหนาบางของตัวละครว่าใครเป็นใครเกินความจำเป็น จนมันทำให้รู้สึกเหมือนยัดเยียดให้มารวมตัวกันเสียมากกว่าที่จะรักกันจริง ๆ  พร้อมกับมุขตลกกวน ๆ ที่หนังค่ายนี้ชอบใส่มา  แต่เรื่องนี้ถือว่ามุขตลกมาเต็มที่สุดจนถึงเรียกว่ามาแบบไม่มีกาลเทศะกันเลยทีเดียว จนมันกลายเป็นหนังที่เบาสมองมากกว่าเป็นหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จ  ถึงแม้ว่าบทสรุปมันก็ไม่หนีไปไหนก็ตามแต่

            แต่เรื่องที่ขอชมมากที่สุดคือความฉลาดในลูกเล่น 3D  ที่ใส่มาในหนังนั้นถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ของ  Marvel Comic  ที่ใช้คุณภาพในงาน 3D  ได้ดีที่สุดทั้งความสวยงาม  การเล่นกับคนดู  และ CG  ที่ดูเนียนตาเพลิดเพลินไปกับการต่อสู้บนอวกาศในความยาว 2 ชั่วโมงกับ 1 นาทีที่แลดูเหมือนแปปเดียว  จนเราอาจลืมบทหนังที่ค่อนข้างหลวมเลยก็เป็นได้

            ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ให้สาระอะไรเท่าไหร่  แต่จุดที่จับได้ก็คงมีแค่การได้ดูเหล่าคนที่มีปูมหลังที่เจ็บปวดมารวมตัวกันเพื่อลบล้างหรือลืมมันแต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก  แต่สิ่งที่มีค่ามากกว่าสิ่งใดก็คือ  ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ฮีโร่ที่กลายเป็นแก๊งค์ฮีรั่วสุดเกรียน  และเป็นภาพยนตร์เปิดตัวที่ดีที่สุดของเหล่าฮีโร่ต่าง ๆ นา ๆ ที่มีของค่ายนี้เลยก็ว่าได้

            8 / 10




ปล. หลัง End Credit  มีให้ดูขำ ๆ ด้วย แต่ถ้าแนะนำไม่ต้องรอดูหรอกเสียเวลาเพราะไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องต่อ ๆ ไปเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น