วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

The Amazing Spider-man 2
แมงมุมผู้ซับซ้อน

          โดยส่วนตัวนั้นค่อนข้างจะชอบ  Spider-man เวอร์ชั่นของมาร์ค เวปป์  มากกว่าเวอร์ชั่นของแซม ไรมี่ เนื่องจากตัวเวอร์ชั่น  The Amazing  นั้นค่อนข้างจะมีความเป็นดราม่าและมีปมให้หน้าค้นหามากกว่าจะเป็นหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่สูตรสำเร็จทั่ว ๆ ไป  (ประมาณ Batman เวอร์ชั่นโนแลนด์)

            The Amazing Spider-Man 2 จะเล่าถึงปีเตอร์ พาร์คเกอร์ หรือ สไปเดอร์-แมน ที่เค้าต้องออกไปปราบปรามเหล่าร้าย ในขณะที่เรื่องความรักกับเกว็น สเตซี่ ก็ยังอึมครึมเมื่อเขายังจำคำสัญญากับพ่อของเกวนที่จะอยู่ให้ห่างตัวเธอเพื่อ ไม่ให้เธอมีอันตราย แต่มันก็เป็นคำสัญญาที่เขาทำได้ลำบาก และแล้ววายร้ายตัวใหม่นาม อิเล็คโตร ก็เผยตัวออกมา พร้อมกับเพื่อนเก่าอย่างแฮร์รี่ ออสบอร์น ก็กลับมาหา และเขายังได้ค้นพบเบาะแสใหม่ๆ เกียวกับเรื่องราวชีวิตอันเป็นปริศนาของเขา


            ภาคนี้ยังคงกำกับโดย  มาร์ค เวปป์  ที่ไม่ค่อยมีผลงานในตลาดหนังใหญ่มากนักที่ผ่านตาก่อนจะมีกำกับไอ้แมงมุมแล้วคงเป็น  500 Days of Summer  มั้งที่พอจะเคยได้ยิน  หรือถ้าดูจากโปรไฟล์ที่ผ่านมาหนังของเค้าน่าจะเป็นสไตล์โรแมนติก คอมมาดี้ ดราม่าซะเป็นส่วนใหญ่  Spider-Man  จึงอาจจะเป็นหนังแอคชั่นเรื่องแรกของเค้าก็เป็นได้  แถมสามารถนำเอาสิ่งที่ตัวเองถนัดมาผสมเข้ากันได้อย่างลงตัวและน่าค้นหาเป็นอย่างมาก  ถึงแม้อาจจะมีบางจุดที่ทำให้สับสนก็ตามแต่

            ในส่วนของนักแสดงขอชมว่าผู้กำกับสามารถสร้าง  "คู่จิ้น"  ในวงการหนังซุปเปอร์ฮีโร่ได้อย่างน่ารักมากระหว่าง  แอนดรู การ์ฟิลว์ กับ เอมม่า สโตน  ในบทคู่พระนาง  "ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์" และ "เกว็น สเตซี่"  ทั้งคู่สามารถเล่นรับส่งบทได้อย่างน่ารักจนเชื่อว่าแฟนบอกหรือสาว ๆ เมื่อเห็นอาจจะมีจิกหมอนเหมือนหนังเกาหลีก็เป็นได้  (แถมถ้าใครไม่ได้ตามข่าวของหนังเรื่อนี้มาตลอด  ถ้าอินกับคู่รักนี้แล้วอาจเสียน้ำตาได้)  ส่วนตัวร้ายอย่าง เจมี ฟ็อกซ์  ในบท  "แม็กซ์" หรือ "อิเลคโทร"  ก็สามารถเล่นในบทของตัวเองได้เป็นอย่างดี  และตัวของ  แดน เดฮาน  ในบท  "แฮรี่ ออสบอน"  ก็สามารถเล่นได้ดีไม่มีอะไรผิดพลาดนัก

            ในส่วนของบทหนังก็อย่างที่กล่าวไปว่าผู้กำกับเหมือนจะถนัดในเรื่องของดราม่า โรแมนติก คอมมาดี้  ที่สามารถใส่เข้าไปในหนังได้อย่างลงตัวจนบางทีคุณอาจลืมไปว่าดูหนังตลกหรือหนังแอคชั่นกันแน่ เช่นบางฉากกำลังสู้กับศัตรูอยู่ก็จะคอยสอดแทรกมุขตลกนอกเรื่องมาตลอด  ซึ่งแรก ๆ มันก็ดูเค้าทีนั่นหล่ะ แต่หลัง ๆ มันเริ่มเยอะเกินงามจนอาจสับสนว่าต้องการนำอะไรก่อนกันแน่  แต่สิ่งที่น่าชมตรงจุดนี้คือเค้าสามารถสร้างคู่รักหรือที่บ้านเราชอบเรียกว่า "คู่จิ้น"  ในหนังได้อย่างดีมาก  เพราะบทสามารถรับส่งให้พระนางเล่นได้อย่างเข้าขาและอินไปกับความรักของ  คนนี้หรืออาจจะเป็นสิ่งที่ผู้กำกับตั้งใจจะเน้นเรื่องราวความรักมากกว่าการต่อสู้ก็เป็นไปได้

            ในส่วนของแอคชั่น ตัดต่อ CG  ต่าง ๆ  บอกได้คำเดียวว่าเป็นงานที่สวยงามเอามาก ๆ  โดยส่วนตัวผมขอแนะนำดูโรง  IMAX  หรือโรงไหนก็ได้ที่เป็นระบบ  3D  เพราะหนังเรื่องนี้สามารถเล่นกับลูกเล่น  3D  ได้อย่างสุดมันส์เรื่องนึงในตอนนี้  ทั้งความลึกตื้น  เล่นกับคนดูสามารถทำออกมาได้ดีไม่น่าเกลียดเลย  แถมสวยและตื่นเต้นมากอีกต่างหาก

            หนังอาจจะไม่ได้มอบอะไรมากนักเพราะมันยังคงเป็นหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จ  แต่ยังดีที่หนังสอดแทรกความเป็นดราม่าและเรื่องราวของความรักกลบสิ่งที่จำเจออกไปได้  ถึงแม้ปมในเรื่องบางอย่างอาจจะดูงง ๆ  หรือดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล  แต่มันยังสามารถกลบอารมณ์ด้วยความเป็นโรแมนติกให้เราได้รู้สึกรักตัวพระนางนี้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย

            ถ้าล่าวว่า  Arkham City  มีผู้พิทักษ์คือ  Batman แล้วนั้น  New York  ก็คงมีผู้พิทักษ์ชื่อว่า  Spi-man  นั่นหล่ะ

            8 / 10




ปล. ถ้าใครดูโรงธรรมดาทั้ง 2D และ 3D  หนังจบแล้วอย่าพึ่งลุก เพราะมีท้ายเครดิตมี  Cut Screen  ของ  X-MEN ภาคล่าสุดให้ได้ดู  แต่ดูแล้วไม่ต้องคิดเยอะว่าจะเห็นสไปดี้ไปสู้กับพวกนั้นนะเพราะมันเป็นแค่สัญญาระหว่างค่ายหนังเท่านั้น
ส่วนใครที่ไปดูระบบ IMAX 3D  เหมือนผมหนังจบฟังเพลงเครดิตพอประมาณหรือรอให้คนออกเยอะ ๆ ก่อนก็ลุกตามชาวบ้านซะเพราะมันไม่มีให้เราได้ดู

ส่วนระบบ 4DX เป็นยังไงใครดูแล้วมาบอกด้วย